พื้นบ้านเป็นส่วนสำคัญของบ้าน เพราะใช้วางเฟอร์นิเจอร์และข้าวของต่างๆ รวมถึงมีผู้คนเดินผ่านไปมาอยู่ตลอด ทำให้พื้นอาจจะสกปรกง่าย ควรใช้วัสดุที่ทำความสะอาดไม่ยาก ทั้งนี้พื้นแต่ละส่วนมีการใช้งานไม่เหมือนกัน เช่น ห้องนอน กับห้องน้ำ ก็ต้องเลือกวัสดุปูพื้นสำหรับภายในบ้านที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น ทนรอยขีดข่วน กันน้ำ รับน้ำหนักได้มาก เป็นต้น
ชนิดของวัสดุปูพื้นบ้าน
1. พื้นไม้จริง
พื้นที่ปูด้วยไม้จริงมีความคลาสสิก เป็นที่นิยมของคนไทยมานาน เพราะดูเป็นธรรมชาติ โทนสีดูอบอุ่น สามารถประยุกต์ใช้กับการตกแต่งบ้านได้หลายสไตล์ ทั้งบ้านทรงไทย บ้านสไตล์วินเทจ หรือกระทั่งบ้านแบบโมเดิร์นก็ได้เช่นกัน ไม้ที่นิยมนำมาปูพื้นคือไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง ไม้แดง ไม้มะค่า และไม้สัก ปัจจุบันมักใช้กับบ้านปูน โดยการปูพื้นคอนกรีตก่อนจากนั้นจึงปูพื้นไม้ทับ เหมาะกับการปูพื้นทั้งชั้นล่างและบนของล่าง แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่โดนความชื้นอย่างห้องน้ำหรือห้องครัว
ข้อดีของพื้นไม้จริง
- มีอายุการใช้งานนาน
- มีความคลาสสิก ตกแต่งบ้านได้หลายแบบ
- เวลามีปัญหาผุพัง สามารถเปลี่ยนเฉพาะจุดได้
- ขัดทำสีใหม่ได้หลายครั้ง
ข้อเสียของพื้นไม้จริง
- ราคาแพง
- มักมีปัญหาเรื่องปลวก
- เนื้อไม้มักเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ เช่นยืด บิด บวม
- ไม่ค่อยทนความชื้น
2. พื้นปาร์เกต์
พื้นปาร์เกต์เป็นพื้นที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้แดง โดยนำไม้มาตัดให้มีขนาดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้วเรียงเป็นแพทเทิร์นที่มีความสวยงาม เมื่อขัดสีและเคลือบเงาจะมีความแวววาวสวยงาม ไม้ปาร์เกตมีราคาถูกกว่าแผ่นไม้จริงเพราะใช้เศษไม้มาผลิตได้ เหมาะกับการปูพื้นชั้นบนและชั้นล่างเหมือนพื้นไม้จริง และไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีความชื้น
ข้อดีของพื้นปาร์เกต์
- มีความสวยงาม
- ราคาถูกกว่าพื้นไม้จริง
ข้อเสียของพื้นปาร์เกต์
- เป็นรอยขีดข่วนง่าย
- ไม่ทนความชื้น
- เมื่อผุพัง ไม่สามารถแก้ไขเฉพาะจุดได้
3. พื้นไม้ลามิเนต
พื้นลามิเนตคือพื้นไม้ที่มีลักษณะเป็นชั้น ทำจากไม้ปลูกและส่วนประกอบอื่นๆ เช่น กาว สารกันความชื้น สารกันแมลงกัดกิน ที่ผ่านกระบวนการบีบอัดด้วยความร้อนและแรงดันสูง ทำให้มีความแข็งแรงทนทาน เหมาะกับการปูพื้นบ้านและคอนโด เป็นวัสดุทดแทนไม้จริงที่มีความสวยงาม เบา และราคาถูกกว่าไม้จริง
ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต
- มีสีสันและลวดลายให้เลือกมากมาย
- ทนทาน ไม่เป็นรอยขีดข่วน
- ทนแดด สีมีความคงทน
- ติดตั้งง่าย ไม้ทุกแผ่นต่อกันสนิท และใช้งานได้ทันทีหลังติดตั้ง
- ไม่เย็นเท้า
ข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนต
- ไม่ทนความชื้น
- ทำสีใหม่ไม่ได้
4. พื้นกระเบื้องยาง
พื้นกระเบื้องยางใช้วัสดุหลักทำจาก PVC แล้วเคลือบผิวทำให้มีความเงางาม มีลวดลายต่างๆ มากมายให้เลือก เช่น ลายพรม ลายหินอ่อน ดูแลรักษาง่าย ปลวกไม่กิน ราคาย่อมเยา แต่เหมาะแก่การตกแต่งพื้นชั่วคราวหรือเฉพาะบางส่วนของบ้าน หรือร้านค้า ซึ่งผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อก็ผลิตมาให้ความหนาบางไม่เท่ากัน จึงขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ ทั้งนี้กระเบื้องยางเหมาะสำหรับการปูพื้นในบ้านที่มีเด็ก เนื่องจากกระเบื้องยางยืดหยุ่น นุ่มเท้า เวลาเดินหรือวิ่งก็เก็บเสียงอีกด้วย
ข้อดีของพื้นกระเบื้องยาง
- ดูแลง่าย
- ทนทาน ปูในพื้นที่ที่มีการใช้งานบ่อยได้ แต่ต้องเลือกแบบหนา
- รื้อถอนและปูใหม่ได้ง่าย
- มีลวดลายมากมายให้เลือก
- ปลวกไม่กิน
ข้อเสียของพื้นกระเบื้องยาง
- ไม่ทนความชื้น อาจเกิดเชื้อราได้
- ดูไม่หรูหรา
- เป็นรอยได้ง่าย
5. พื้นกระเบื้องเซรามิค
ทำมาจากกระเบื้องที่ผ่านการเผามา 1-2 ครั้งแล้วทำเป็นแผ่นกระเบื้องเซรามิค มีหลายขนาด หลายลวดลายให้เลือกใช้งาน มีทั้งแบบปูพื้นและปูผนังซึ่งมีคุณสมบัติที่ทนทานรับน้ำหนักได้แตกต่างกัน มีทั้งผิวมัน และผิวด้าน โดยแบบผิวด้านเหมาะแก่การใช้ในห้องน้ำเพื่อกันลื่น รวมถึงเหมาะใช้ในห้องครัวเพราะกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดได้ง่าย
ข้อดีของพื้นกระเบื้องเซรามิค
- มีสีสันและลวดลายให้เลือกมาก
- มีหลายขนาดหลายราคา
- ทำความสะอาดง่าย
- ราคาถูก
- อายุการใช้งานนาน
ข้อเสียของพื้นกระเบื้องเซรามิค
- รื้อแล้วนำกลับมาปูใหม่ไม่ได้
- เย็นเท้า
- ถ้าเป็นแบบผิวมันจะโดนน้ำแล้วลื่น
6. พื้นกระเบื้องแกรนิต
พื้นกระเบื้องแกรนิตทำมาจากผงแกรนิตที่ขึ้นรูปด้วยความร้อนสูงเพื่อให้เป็นแผ่นกระเบื้อง เมื่อมีรอยสามารถขัดสีได้ เหมาะกับการปูในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก มีคนเดินผ่านไปมาบ่อย กระเบื้องแกรนิตมีลักษณะคล้ายกระเบื้อง แต่ทนทานกว่ามาก เหมาะสำหรับปูในพื้นที่ทางเดิน ห้องรับแขก ห้องครัว แต่ไม่เหมาะกับในห้องนอนเพราะกระเบื้องแกรนิตมีความเย็นเท้า
ข้อดีของพื้นกระเบื้องแกรนิต
- รองรับน้ำหนักได้มาก
- ทนต่อรอยขีดข่วน
- มีความสวยงาม
- ปูได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
- ทำความสะอาดง่าย
- อายุการใช้งานยาวนาน
ข้อเสียของพื้นกระเบื้องแกรนิต
- เย็นเท้า
- มีราคาแพงเมื่อเทียบกับพื้นแบบอื่นๆ
- เปียกน้ำแล้วลื่น
7. พื้นหินอ่อน
พื้นหินอ่อนเป็นพื้นที่ดูมีความหรูหราแบบธรรมชาติ มีความสวยและความเงางาม แข็งแรงทนทาน พื้นหินอ่อนมีความเย็น ทำความสะอาดง่าย อายุการใช้งานยาวนาน แต่ก็มีราคาที่แพงกว่าพื้นประเภทอื่นๆ
ข้อดีของพื้นหินอ่อน
- สวยงาม ดูหรูหราและเป็นธรรมชาติ
- ทนทาน ไม่ผุพังง่ายๆ อาจอยู่ได้เป็น 100 ปี
- ทำความสะอาดง่าย
ข้อเสียของพื้นหินอ่อน
- เป็นรอยด่างได้ถ้าโดนกรด เช่น น้ำส้มสายชู
- ไม่เหมาะตกแต่งกับอาคารที่อยู่ชายทะเล เพราะลมทะเลจะกัดกร่อนหินอ่อนได้
- ไม่ทนแดด ทำให้สีของหินอ่อนซีดจาง
- ไม่ทนการขีดข่วน
8. ปูพรม
พื้นพรมมีหลายชนิด ทั้งพรมขนสัตว์ พรมไนลอน พรมโพลีเอสเตอร์ โดยพรมให้ความรู้สึกนุ่มสบายเท้า และอบอุ่น เหมาะใช้ร่วมกับห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ โดยเฉพาะห้องที่มีความเป็นส่วนตัว เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องอ่านหนังสือ และยังช่วยให้ห้องดูมีความหรูหรามากขึ้น
ข้อดีของการปูพรม
- ทำให้บรรยากาศอบอุ่น
- หกล้มแล้วบาดเจ็บน้อยกว่าพื้นประเภทอื่นๆ
- พื้นไม่เย็น ดีต่อสุขภาพ
- บ้านดูหรูหรามากขึ้น
ข้อเสียของการปูพรม
- เป็นที่กักเก็บฝุ่น ดูแลยาก
- มีราคาแพง
- เมื่อโดนความชื้นแล้วจะเกิดเชื้อรา
นอกจากต้องเลือกวัสดุที่ปูพื้นบ้านเหมาะสมกับการใช้งานแล้ว สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือการทำความสะอาดและดูแล โดยเฉพาะพื้นที่มักเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศเช่นพื้นไม้ เพื่อที่จะได้ยืดอายุการใช้งานของพื้นบ้านให้ยาวนานขึ้น ไม่ต้องคอยเปลี่ยนใหม่อยู่บ่อยๆ
บทความที่น่าสนใจ
- ชนิดวัสดุปูพื้น เลือกวัสดุที่ใช้ปูพื้นสำหรับภายในบ้านแบบไหนดี?
- ชนิดกระเบื้องต่างๆ เลือกกระเบื้องปูพื้น ปูผนังแบบไหนดี?
- ไอเดียกระเบื้องตกแต่งผนังห้อง เลือกกระเบื้องแต่งบ้านแบบไหนดี?
- พื้นไม้ลามิเนตคืออะไร? มีลักษณะและมีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
Comments are closed.