ไม่ว่าจะสร้างบ้านใหม่หรือรีโนเวทบ้านเก่า ผนังบ้านก็เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สร้างเอกลักษณ์ให้บ้านได้ ซึ่งการตกแต่งผนังบ้านก็ทำได้ทั้งทาสีบ้านและติดวอลเปเปอร์ซึ่งก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป วันนี้เราจึงมีข้อดีข้อเสียของการทาสีบ้านและติดวอลเปเปอร์มาเป็นตัวช่วยให้กับคนที่ยังลังเลว่าควรจะเลือกแบบไหนดี
การทาสีผนัง

การทาสีผนังบ้านเป็นวัสดุที่ใช้ตกแต่งบ้านทั้งภายในและภายนอกโดยมีจุดเด่นที่ความทนทาน แบ่งได้หลายประเภท เช่น สีอะคริลิก สีทาไม้ ตามวัตถุประสงค์ในการใช้ โดยขั้นตอนทาสีนั้นเริ่มตั้งแต่การสำรวจพื้นผิวที่ต้องการจะทาว่าเป็นประเภทใดเพื่อให้เลือกใช้สีได้เหมาะสม ต่อมาเป็นการซ่อมแซมทำความสะอาดพื้นผิวและต้องสำรวจค่าความชื้นที่เหมาะสมก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา จากนั้นจึงลงสีพื้นซึ่งเป็นสีขาวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สีติดทน ขั้นสุดท้ายจึงเป็นการทาสีหลักที่เราต้องการจึงเป็นอันเสร็จ ด้วยขั้นตอนมากมายเหล่านี้การทาสีผนังจึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอย่างมากนั่นเอง
ข้อดี
- ใช้งานยาวนาน เป็นจุดเด่นสำคัญของการทาสีบ้าน เพราะการทาสีบ้านแต่ละครั้งอยู่ได้ยาวนานเกิน 10 ปี เนื่องจากมีขั้นตอนการเตรียมทาสีหลายชั้น ทำให้มีเนื้อสีปกคลุมผนังหลายชั้นช่วยให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งแสงแดด ลม ฝน
- เลือกเฉดสีได้ตามใจ การทาสีผนังบ้านมีข้อดีคือสามารถผสมสีขึ้นใหม่ตามความต้องการหรือเลือกเฉดสีให้เข้ากับธรรมชาติโดยรอบหรือสไตล์การตกแต่งบ้าน
- ทำความสะอาดง่าย ด้วยความทนทานของสีทาบ้านไม่ว่าจะเป็นสีทาภายนอกหรือสีทาภายใน ที่ทนทานต่อการทำความสะอาดคราบสกปรกต่าง รวมถึงขัดถูสิ่งสกปรกออกได้โดยไม่ทำลายเนื้อสี
- หมดกังวลเรื่องเชื้อรา ในช่วงฤดูฝนบ้านที่ทาสีส่วนใหญ่จะไม่ค่อยประสบปัญหาความชื้นและเชื้อรา ไม่มีปัญหาลอกร่อนเพราะไม่ต้องพึ่งพาวัสดุที่ใช้ยึดเกาะช่วยให้หมดกังวลปัญหาจากความชื้น
- คุณสมบัติพิเศษ ปัจจุบันสีทาบ้านไม่ได้มีเพื่อความสวยงามเท่านั้นแต่ยังมีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ อีก เช่น สีบ้านเย็นที่ช่วยสะท้อนความร้อนช่วยให้อากาศในบ้านเย็นลงเป็นการประหยัดค่าไฟได้มากยิ่งขึ้น สีกันรอยที่ทำความสะอาดง่ายช่วยให้บ้านดูใหม่เสมอ ไปจนถึงสีฟอกอากาศซึ่งเป็นสีไร้กลิ่นและกลิ่นระเหยได้เร็วซึ่งเหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็ก
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายสูง การทาสีบ้านต้องใช้อุปกรณ์เป็นจำนวนมาก เช่น ลูกลิ้งหรือแปรงทาสี เกรียงสำหรับแซะปูน และยังมีขั้นตอนหลายขั้นตอนตั้งแต่เตรียมพื้นผิว ทาสีรองพื้น ทาสีทับหน้าอีกหลายชั้น ทำให้การสีบ้านแต่ละครั้งจำเป็นต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
- เลือกรูปแบบได้น้อยกว่า แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างเฉดสีหรือรูปแบบการทาสีได้ง่ายขึ้น แต่การทาสีบ้านก็ยังเป็นการทาสีพื้นๆ มากกว่า เพราะหากต้องการลวดลายอาจจะต้องจ้างช่างเฉพาะทางทำให้งบประมาณเพิ่มขึ้นไปอีก
- ต้องระวังเรื่องการเลือกช่าง การทาสีจำเป็นต้องใช้ทักษะเพื่อให้สีเรียบเนียน ทำให้ต้องเลือกช่างทาสีให้ดีไม่เช่นนั้นผลงานที่ออกมาอาจจะไม่เรียบเนียนสีไม่เท่ากันได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
การติดวอลเปเปอร์ผนัง

วอลเปเปอร์ผนัง (Wallpaper) เป็นวัสดุตกแต่งภายในที่ผลิตจากวัสดุหลายชนิด เช่น กระดาษ ผ้า ไวนิล โฟมและวัสดุอื่นๆ อีกหลายประเภท โดยมีจุดเด่นที่ใช้งานได้สะดวกสบาย เพียงทากาวแล้วติดวอลเปเปอร์ลงไปบนผนังได้เลย หรือวอลเปเปอร์ประเภทที่มาพร้อมกาวก็เพียงแกะกาวแล้วแปะลงไปได้เลย จากนั้นรอให้กาวแห้งก็สามารถเข้าอยู่ได้เลยไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นรบกวน นอกจากนี้หากต้องการเปลี่ยนวอลเปเปอร์ก็ทำได้ง่ายเพียงพรมน้ำลงบนวอลเปเปอร์เดิมแล้วทิ้งไว้สักพักให้แผ่นวอลเปเปอร์หลุดออกมาหรือใช้มือลอกออกก็ทำได้ง่ายๆ
ข้อดี
- เลือกได้หลายรูปแบบ วอลเปเปอร์ได้เปรียบกว่าสีทาบ้านที่รูปแบบหลากหลาย เนื่องจากการทาสีเป็นเพียงการทาสีแบบพื้นๆ แต่วอลเปเปอร์นั้นมีลวดลายและพื้นผิวสัมผัสให้เลือกหลายแบบเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ให้กับบ้าน
- ประหยัดเวลา การติดตั้งวอลเปเปอร์นั้นสามารถทำเองได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยช่างเฉพาะทาง เช่น วอลเปเปอร์ชนิดมีกาวในตัวติดตั้งง่ายๆ เพียงลอกเทปกาวด้านหลังแล้วใช้ผ้าลูบที่วอลเปเปอร์ไปตามผนังที่ต้องการก็เป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งวอลเปเปอร์ก็มีขนาดหน้ากว้างมากทำให้ติดตั้งได้เร็วยิ่งขึ้น
- ไม่มีกลิ่นรบกวน ปกติหลังจากทาสีบ้านมักจะต้องทิ้งระยะเวลาเพื่อให้กลิ่นสีระเหยออกจนหมด แต่วอลเปเปอร์บางประเภท เช่น ชนิดที่มีกาวอยู่ในตัวนั้นเมื่อติดแล้วสามารถเข้าอยู่ได้เลยเนื่องจากไม่มีกลิ่นรบกวน
- ช่วยปกปิดร่องรอยบนผนัง วอลเปเปอร์เป็นวัสดุที่ช่วยปกปิดร่องรอยคราบสกปรก รอยร้าว รอยแตกร้าว ได้เป็นอย่างดี แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลามากกว่าการทาสีอีกด้วย
- ดูดซับเสียงได้ดี ปัจจุบันวอลเปเปอร์ถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติดูดซับเสียงและกันเสียงสะท้อนได้ดีกว่าการทาสี การใช้วอลเปเปอร์จึงช่วยกันเสียงจากทั้งภายนอกและภายในบ้านซึ่งอาจเล็ดลอดเข้ามาสร้างความรำคาญใจได้
ข้อเสีย
- อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น คุณภาพของวอลเปเปอร์นั้นมีหลายเกรด ยิ่งเกรดดีก็จะส่งผลต่อระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานขึ้นและราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน หากเลือกวอลเปเปอร์ที่คุณภาพไม่สูงนักก็จะอยู่ได้เพียง 6 – 8 ปี ก็จะเริ่มลอกร่อนซึ่งทำให้ต้องเสียเงินและเวลาซ่อมแซม
- ปัญหาความชื้นและเชื้อรา ในช่วงหน้าฝนความชื้นและเชื้อรามักสร้างความเสียหายให้กับส่วนต่างๆ ของบ้าน ความชื้นสะสมในผนังที่ทำให้เกิดเชื้อราก็เป็นสาเหตุที่ทำให้วอลเปเปอร์บวม ลอกร่อน และลดอายุการใช้งานนั่นเอง
- พื้นผิวเสียหาย วอลเปเปอร์บางประเภทอาจทิ้งร่องรอยเอาไว้บนผนังหลังจากลอกออก ทำให้หลังจากลอกออกแล้วอาจจะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือต้องติดวอลเปเปอร์ใหม่ทับเท่านั้น
การทาสีบ้านและการติดวอลเปเปอร์นั้นมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน การเลือกใช้วิธีการทั้งสองแบบจึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานและงบประมาณที่มี โดยการทาสีอาจเหมาะกับผู้ที่เน้นการใช้งานยาวนาน สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ให้กับอาจเลือกใช้วอลเปเปอร์ หรือจะนำวิธีการทั้งสองมาผสมผสานกันก็ได้ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานที่ต้องการมากที่สุดทั้งสิ้น
Comments are closed.